Friday, September 10, 2010

B2-2010 คุณแม่ของมิน Sept08 รับวีซ่า Sept10 เชิญมางานแต่ง

แจมน้อย
แจมน้อย

Joined: Fri Jan 30, 2009 8:33 am
Posts: 83
Location: there's always something to be thankful for.
Edit post Reply with quote
Post B2-2010 คุณแม่ของมิน Sept08,10 รับวีซ่า Sept10,10
B2-2010 คุณแม่ของมิน Sept08,10 รับวีซ่า Sept10,10

สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆทุกท่านที่บ้าน usvisa4thai :-) :-) ^:)^ ^:)^ 

วันนี้มินขอมาแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวให้คุณแม่ค่ะ 
คุณแม่สัมภาษณ์วันที่ 8 กันยายน 2553 ได้รับวีซ่าวันที่ 10 กันยายน 2553 :D :D 

มินต้องขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกท่านมากๆๆ ที่ช่วยแนะนำข้อมูลเกี่ยวการขอวีซ่าท่องเที่ยวB2 จนในที่สุดคุณแม่ก็ได้วีซ่าสมใจ คุณแม่ดีใจมากและทุกๆคนในครอบครัวก็ต่างพากันดีใจ ที่ผ่านมามินและแฟนเหนื่อยมากที่ต้องช่วยกันเตรียมข้อมูลวีซ่าคู่หมั้นและท่องเที่ยวในเวลาเดียวกัน แต่แน่นอนมินต้อง Apply วีซ่าของมินก่อน เพราะต้องใช้เวลานานกว่า แฟนเป็นคนหาฟอร์มDS-160 ส่วนมินเป็นคนกรอกฟอร์มให้คุณแม่ (ทำงานกันเป็นทีมคะ 555) แล้วมินก็ไปจ่ายค่าธรรมเนียม พอได้ Pin มา มินก็จัดการล็อกอินเข้าไปหาวันนัดเลย แต่เข้ายังไงก็เข้าไม่ได้ เลยเมวบ่นกับแฟนว่า “ทำไมฉันเข้าเวปไม่ได้ ฉันพยายามเข้าตั้งหลายครั้ง แต่ทำไมฉันเข้าไม่ได้ ฉันเหนื่อยแล้ว คุณทำแล้วกัน” แล้วแฟนก็โทรมา หัวเราะเราใหญ่เลย บอกว่าเราเนี้ย ใจร้อนจริงๆ เหตุที่เราเข้าไม่ได้เพราะ หลังจากที่ซื้อ Pin มาแล้ว เราจะสามารถเข้าล็อกอินไปหาวันนัดสัมภาษณ์ ก็ต้องให้ผ่าน 24 ชั่วโมงก่อน แปลง่ายๆว่า ถ้าซื้อPinวันนี้ แต่ใช้ได้พรุ่งนี้ เราเนี้ยหน้าแตกเลย แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้โยนให้แฟนเป็นคนทำ เหอะๆๆ แล้วจากนั้นแฟนล็อกอินเข้าไปหาวัดนัดสัมภาษณ์ให้คุณแม่ วันแรกที่แฟนล็อกอินเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ต แฟนบอกไม่มีวันนัดเลย มินและแฟนก็เริ่มใจไม่ดี กลัวว่าคุณแม่จะไม่ได้วันนัดสัมภาษณ์ เพราะมินกำชับแฟนให้เลือกเอาเฉพาะวันที่ 8 กันยา ถ้าเป็นไปได้ ขอเป็นวันนั้น เพราะมินสัมภาษณ์วันที่ 7 กันยา มินอยากให้คุณแม่สัมภาษณ์วันต่อกันเลย ถ้าเป็นวันเดียวกัน กลัวว่าจะฉุกละหุกเกินไป จากนั้นวันที่สองแฟนก็เข้าไปหาในเน็ตอีก เผอิญว่าได้ค่ะ ได้เป็นวันที่ 8 กันยา อยากที่ต้องการเลย มินกับแฟนดีใจม๊ากกกมากกก เหมือนพระเจ้าอวยพรจริงๆ พอวันต่อมาแฟนก็ได้รับอีเมวจากยืนยันการนัดสัมภาษณ์จากสถานทูต หลังจากนั้นมินก็จัดเอกสารเข้าแฟ้มให้คุณแม่ แยกเป็น 3 เซ็ต คือ 1. เอกสารของคุณแม่ 2. เอกสารของมิน 3. เอกสารของคู่หมั้นเรา (ว่าที่ลูกเขยยะคะ คิคิ) 

เอกสารที่ใช้ในการสัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวB2 ของคุณแม่ก็มี
1. การยืนยันการนัดหมายจากบริการข้อมูลวีซ่า 
2. FORM DS-160 (ปริ้นออกมาจากอินเตอเน็ต หลังจากที่ส่งออนไลน์) 
3. ใบเสร็จจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าท่องเที่ยวB2 
4. จดหมายรับรองค่าใช้จ่ายจากคู่หมั้นเรา (เชิญไปร่วมงานแต่งงาน)
5. หนังสือเดินทาง ตัวจริง
6. หนังสือเดินทางเล่มเก่า ตัวจริง
7. ทะเบียนบ้าน ตัวจริง พร้อมสำเนา 
8. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ตัวจริง พร้อมสำเนา
9. ใบหย่า ตัวจริง พร้อมสำเนา
10. รูปถ่าย 2 ใบ พร้อมเขียนชื่อ-สกุล ด้านหลัง
11. โฉนดที่ดิน ตัวจริง
12. หนังสือการทำประโยชน์ น.ส. 3 ก.
13. หนังสือรายการจนทะเบียนเจ้าของรถ (หมายถึง เอกสารที่แสดงว่าเป็นเจ้าของรถนะคะ)
14. สมุดบัญชีธนาคาร 
15. Bank Statement 
16. รูปถ่าย บ้าน รถยนต์ของคุณแม่ และรูปถ่ายของคุณแม่ที่ถ่ายกับหลานๆ คุณยาย มิน และว่าที่ลูกเขย ที่ถ่ายด้วยกันที่บ้านแม่ และที่อื่นๆที่เราพาแม่ไป (พร้อมเขียนบรรยายด้านหลังรูปว่า ถ่ายที่ไหน เมื่อไหร่ อันนี้จะให้คุณแม่เขียนเป็นลายมือของคุณแม่ จะได้น่าเชื่อถือ และก็เป็นอย่างเดียวที่คุณแม่ทำ 55555) 

เอกสารของมิน (ลูก) 
17. สำเนาบัตรประชาชนของมิน
18. สำเนาหนังสือเดินทางของมิน

เอกสารของคู่หมั้น (ว่าที่ลูกเขย) 
1. สำเนาหนังสือเดินทาง
2. หนังสือรับรองการทำงาน ตัวจริง
3. Tax Return ปี 2009 (ส่วนปีอื่นๆ คิดว่ากงสุลคงดูจากของมินแล้ว) 
4. W-2 ปี 2009
5. Earning Statement
6. Bank Account 
7. ใบจองโบส์แต่งงานที่ลาส เวกัส ของมินกับคู่หมั้น

เอกสารทุกอย่างที่เป็นสำเนา มินจะใส่แฟ้มเอกสารเอาไว้ 
ส่วนเอกสารทุกอย่างที่เป็นตัวจริง มินจะแยกให้คุณแม่ถือติดตัวใส่ประเป๋าเอาไว้ต่างหาก 

คุณแม่ได้เวลานัดสัมภาษณ์ 7.15 นาฬิกาค่ะ มินกับแม่ไปถึงสถานทูตแต่เช้า ประมาณ 5 โมงครึ่ง แม่ยืนรอเข้าแถวประมาณชั่วโมงหนึ่ง สงสารแม่ที่ยืนนานด้วย เราก็ยืนเป็นเพื่อนแม่ เราสองคนตื่นเต้นมาก แต่เราก็เตรียมตัวมาดี แล้วมินก็เทรนแม่มาพอสมควรด้วย 555 แล้วพอถึงเวลา แม่เข้าไปข้างใน แล้วมินก็เดินไปนั่งรอตึกข้างๆสถานทูต(ที่เดิมที่แม่นั่งรอเราเมื่อวาน) ตอนนั้นก็โทรบอกแฟนว่าแม่เข้าไปข้างในแล้ว คุยกันไปเรื่อยๆ แม่ก็โทรมาประมาณ 8 โมงกว่าๆ ว่า สถานทูตให้ไปถ่ายรูปมาใหม่เป็นขนาด 5 x 5 นิ้ว รูปที่ถ่ายมามันผิด 2 x 2 นิ้ว เอ๊ะ..เราก็งง เพราะว่าที่เคยอ่านมา ก็ขนาดนี้นี่หน่า แต่เราก็รีบเดินไปหาแม่ที่ยืนรออยู่หน้าสถานทูต เราไปถ่ายรูปใหม่กันที่ตึกสินธร 3 รูป ขนาด 5 x 5 นิ้ว ราคา 180 บาท (แพงอะ แต่ก็ยอม) แล้วแม่ก็กลับเข้าไปข้างใน มินก็ไปนั่งรอที่เดิมต่อ ในใจก็ลุ้นว่าแม่จะผ่านวีซ่ารึเปล่า พอใกล้เวลา 10 โมง มินก็เลยเดินกลับไปสถานทูต เริ่มเห็นคนทยอยเดินออกมาบ้างแล้ว ก็คิดว่าไม่นานแม่เราคงออกมาเหมือนกัน ยืนรอประมาณ 40 นาที แล้วก็ใช่จริงๆ แม่เราเดินออกมาแล้ว พร้อมยิ้มมมมมมมมมมแฉ่ง หน้าบานมากกกกกกกกก มีหัวเราะคิกคักอีก เราก็รู้ทันที่ว่าแม่ได้วีซ่า 5555555555555555 เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีใจที่สู๊ดดดดดดดดดดดดเล๊ยยยยยยยยยยยยยยยย 

เราก็ถามแม่ว่ากงสุลถามอะไรบ้าง แม่เล่าว่า แม่ยื่นเอกสารช่องหน้าต่างที่อยู่ข้างนอก เจ้าหน้าที่ผู้หญิงถามแม่ว่า ขอดูใบเชิญไปแต่งงาน แม่ก็เลยเอาจดหมายที่ว่าที่ลูกเขยเขียนเชิญไปรวมงานแต่งงานและรับรองค่าให้จ่ายให้ดู แล้วจากนั้นก็ให้แม่เข้าไปข้างใน นั่งรอซักพัก กงสุลก็เรียกไปสัมภาษณ์ เป็นกงสุลฝรั่งผู้ชาย การสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยนะคะ (แม่ยังคุยว่า ถึงสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษก็ไม่กลัว 5555 มั่นใจจริงๆแม่เรา ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพราะว่าแม่พูดภาษาอังกฤษพอได้บ้าง แต่ในใจจริงๆเราก็ไม่กลัวนะ เพราะเอกสารเราครบและทุกอย่างเป็นความจริง แม่ยังคุยอีกว่า ถ้าไม่ให้แม่ แล้วจะให้ใคร 555555 เหอะๆๆ) 

คำถามที่ท่านกงสุลถามแม่ก็มี

กงสุล ลูกเขยชื่ออะไร (คำถามนี้มินอึ้งมาก ที่กงสุลเรียกว่า ลูกเขย ไม่ได้เรียกชื่อ แต่ก็น่ารักดีค่ะ) 
แม่ ชื่อ *** *** *** ค่ะ (ทั้งชื่อจริง ชื่อกลาง นามสกุล แม่จำได้หมด เก่งมากเล๊ยยแม่เรา เราบอกให้ท่องบ่อยๆด้วย 555)
กงสุล คุณจะไปทำอะไรที่อเมริกา 
แม่ ไปแต่งงานลูกสาวค่ะ (เสียงดัง ฟังชัด) 
กงสุล ตอนนี้ลูกสาวอยู่ไหน 
แม่ รออยู่ข้างนอกค่ะ (ยิ้มมมมม)
กงสุล ลูกเขยอยู่รัฐไหน
แม่ อาริโซน่าค่ะ
กงสุล ลูกเขยทำงานอะไร 
แม่ อืม...จำไม่ได้ค่ะ มันเป็นภาษาอังกฤษ เขาบอกตั้งหลายครั้งแล้ว แต่จำไม่ได้ (แล้วแม่ก็หัวเราะกลบเกลือน ฮ่าๆๆแหะๆๆ จนทำให้ท่านกงสุลหัวเราะไปด้วย 555 - แต่กงสุลก็ไม่ได้ว่าอะไร น่ารักที่สุด)
กงสุล คุณเกษียณแล้วใช่ไหม (ตอนนี้คุณแม่ ไม่ได้ทำอะไร อยู่เฉยๆค่ะ กงสุลรู้อีกละ ยิงคำถามซะตรงเลย)
แม่ ค่ะ 
กงสุล ลูกสาวจะแต่งงานวันไหน
แม่ วันที่ ** เดือน พฤศจิกายน ค่ะ
กงสุล จะไปอยู่กี่วัน
แม่ ไป 3 เดือนค่ะ
กงสุล แค่ 3 เดือนเหรอ 
แม่ ค่ะ ( แน๊ะ แม่คิดในใจ สงสัยอยากให้เราไปนานกว่านั้น 555)

จากนั้นกงสุลบอกให้แม่ไปจ่ายค่าไปรษณีย์ แล้วบอกว่า จะส่งวีซ่าไปให้อาทิตย์หน้า แล้วมินก็ถามแม่ว่า กงสุลขอดูเอกสารอะไรบ้าง แม่บอกว่า ดูแต่จดหมายจากลูกเขย อ่านไป อ่านมา แผ่นเดียวนันแหละ และดูพาสปอร์ตทั้งเก่าและใหม่ นอกนั้นไม่ได้ดูเลย มิน งง มากกกกกกกกกกก ที่ทำไมกงสุลไม่ได้ดูเอกสารที่เราเอาไป แม่บอกว่า ตอนยื่นสัมภาษณ์อยู่ แม่ก็เอาแฟ้มออกมา วางไว้หน้าต่างนะ แต่กงสุลไม่ขอดูเลย 555555 แม่อุตส่าห์ไปขอ statement มาจากธนาคาร โฉนดที่ดิน บุ๊คแบงค์ อุตส่าห์จะเอามาโชว์ แต่ก็ไม่ดู แม่แอบน้อยใจ 55555 แม่พูดเล่นๆว่า เอามาทำไมให้หนักเนี้ย เอามาก็ไม่ดู ดูบ้างก็ยังดี แต่นี้ไม่ดูเลย 55555 แต่มินว่าก็ดีแล้วแหละค่ะ ดูก็ดี ไม่ดูก็ไม่เป็นไร สรุปแม่ได้วีซ่าแล้ว ส่งให้ถึงบ้านวันที่ 10 กันยา (วันเดียวกับเรา) แต่เขาส่งไปบ้าน คนที่บ้านก็เก็บไว้ให้ แฟนบอก Immigration จะเป็นคนแสตมให้ว่าได้วีซ่ากี่ปี ใช่ไหมค่ะ ??? อยากให้แม่ได้วีซ่า 10 ปีนะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร มาขอใหม่ก็ได้ แต่ถ้าได้ 10 ปีไปเลยก็จะง่ายกว่า แม่จะเดินทางพร้อมกับมินเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ค่ะ 

มินขอให้เพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่กำลังขอวีซ่าให้คุณแม่อยู่ ขอให้เตรียมเอกสารให้คุณแม่ให้ครบ เหมือนที่มินกับแฟน เราทำงานเป็นทีมค่ะ 555 เอกสารครบและถูกต้อง พูดความจริง ให้คุณแม่แต่งตัวสวยๆในวันสัมภาษณ์ด้วยนะ อิอิ เท่านี้คุณแม่ทุกท่านก็มีสิทธิได้วีซ่าแล้วค่ะ ขอให้โชคดีนะค่ะ

;;) ;;) ;;) :D :D :D


Last edited by Mintira on Fri Oct 01, 2010 12:22 am, edited 1 time in total.

Sun Sep 19, 2010 12:16 am

No comments:

Post a Comment